พระคริสต์ในคน คนในพระคริสต์

พระคริสต์ในคน     คนเหมือนพระคริสต์

พระคริสต์ในคน     ชีวิตคนคือพระคริสต์
พระคริสต์ในคน     พระคริสต์ทรงเป็นตัวตนใหม่ของคน
พระคริสต์ในคน     พระคริสต์ทรงเป็นชีวิตของคน
พระคริสต์ในคน     พระเจ้าทรงประทานชีวิตนิรันดร์แก่คน
พระคริสต์ในคน     พระคริสต์ทรงเป็นความชอบธรรมของคน
พระคริสต์ในคน     พระคริสต์ทรงเป็นความบริสุทธิ์ของคน
พระคริสต์ในคน     คนมีศักดิ์ศรีของพระคริสต์
พระคริสต์ในคน     พระคริสต์ทรงครองชีวิตคน
พระคริสต์ในคน     คนสวมพระคริสต์
โดยสาธุคุณ ดร.วัลย์ เพชรสงคราม
คริสตจักรร่มเกล้า

 

 

หลักสัจธรรมของพระเยซูคริสต์

ต้นไม่ดี                  ย่อมให้ผลดี
ต้นไม้เลว               ย่อมให้ผลเลว
ต้นไม้ดี                  จะเกิดผลเลวไม่ได้
หรือต้นไม้เลว         จะเกิดผลดีก็ไม่ได้
เราจะรู้จักเขาได้      เพราะผลของเขา
(มธ.7.17-19)

โอชาติงูร้าย           เจ้าเป็นคนชั่ว แล้วจะพูดความดีได้อย่างไร
ด้วยว่าปากนั้น        พูดจากสิ่งที่มาจากใจ
คนดี                      ก็เอาของดีมาจากคลังแห่งความดีในตัวของเขา
คนชั่ว                    ก็เอาของชั่วมาจากคลังแห่งความชั่วในตัวของเขา
(มธ.12.34-35)

การเป็นคนบาปเป็นต้นเหตุ         การทำบาปเป็นผล
เพราะเป็นคนบาปก่อน               แล้วจึงทำบาป
ไม่ใช่การทำบาปเป็นต้นเหตุ       การเป็นคนบาปเป็นผล
ดุจดังต้นไม้พันธุ์เลวเป็นเหตุ       ทำให้เกิดผลเลว
ไม่ใช่เพราะเกิดผลเลวเป็นเหตุ    จึงทำให้เป็นต้นไม้พันธุ์เลว

การเป็นคนดีเป็นเหตุ                   การทำดีเป็นผล
เพราะเป็นคนดีก่อน                     แล้วจึงทำดี
ไม่ใช่การทำดีเป็นเหตุ                 การเป็นคนดีเป็นผล
ดุจดังต้นไม้พันธุ์ดีเป็นเหตุ           ทำให้เกิดผลดี
ไม่ใช่เพราะเกิดผลเลวเป็นเหตุ    จึงทำให้เป็นต้นไม้พันธุ์ดี

การป่วยเป็นโรคนั้นๆ                    เป็นเหตุของความเจ็บป่วย
ไม่ใช่การเจ็บป่วยเป็นเหตุ            การป่วยเป็นโรคนั้นๆ เป็นผล

ธรรมชติภายในของคน                 เป็นตัวการกำหนดพฤติกรรมของคน
ไม่ใช่พฤติกรรมของคน                 เป็นตัวกำหนดธรรมชาติภายในของคน

โดยสาธุคุณ ดร.วัลย์ เพชรสงคราม
คริสตจักรร่มเกล้า

สุภาษิตของอากูร์

สิ่งซึ่งไม่เคยอิ่ม (สภษ.30.15-16)
1.  แดนคนตาย
2.  ครรภ์ของหญิงหมัน
3.  แผ่นดินโลกที่ไม่อิ่มน้ำ
4.  ไฟที่ไม่เคยพูดว่าพอแล้ว

สิ่งประหลาดเกินความเข้าใจ (สภษ.30.15-16)
1.  ท่าทีของนกอินทรีในฟ้า
2.  ท่าทีของงูบนหิน
3.  ท่าทีของเรือในท้องทะเล
4.  ท่าทีของชายกับหญิงสาว

สิ่งที่ทำให้แผ่นดินโลกสั่นสะเทือน (สภษ.30.21-23)
1.  ทาสเมื่อได้เป็นพระราชา
2.  คนโง่เมื่อกินอิ่ม
3.  หญิงที่ไม่มีใครรักได้สามี
4.  สาวใช้ที่ได้เป็นนายแทนหญิงของตน

สิ่งที่เล็กแต่ปัญญาโต (สภษ.30.24-28)
1.  มด เป็นประชากรที่ไม่แข็งแรง แต่มันยังเตรียมอาหารของมันไว้ในฤดูแล้ง
2.  ตัวกระจงผา เป็นประชากรที่ไม่มีกำลัง แต่มันยังสร้างบ้านของมันในซอกหิน
3.  ตั๊กแตน ไม่มีพระราชา แต่มันยังเดินขบวนเป็นแถว
4.  ตุ๊กแกนั้น เจ้าเอามิอจับได้ แต่มันยังอยู่ในพระราชวัง

สิ่งที่สง่าผ่าเผย (สภษ.30.29-31)
1.  สิงห์ ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีกำลังมากที่สุด และไม่ยอมหันหลังกลับเพราะสิ่งใดเลย
2.  พ่อไก่ที่เกินป้ออยู่
3.  แพะผู้
4.  พระราชาขณะเสด็จพระราชดำเนินอยู่ท่ามกลางประชาชน
โดยสาธุคุณ ดร.วัลย์ เพชรสงคราม
คริสตจักรร่มเกล้า

สิงที่พระเจ้าเกลียดชัง

1.  ตายโส (สภษ.6.17/8.13X
2.  ลิ้นมุสา (สภษ.ุ.17)
3.  มือที่ทำโลหิตไร้ความผิดให้ตก (สภษ.6.17)
4.  จิตใจที่คิดแผนงานโหดร้าย (สภษ.6.18)
5.  เท้าที่รีบวิ่งไปสู่ความชั่ว (สภษ.6.18)
6.  พยานเท็จซึ่งหายใจออกเป็นคำมุสา (สภษ.6.19)
7.  คนผู้หว่านแตกร้าวท่ามกลางพวกพี่น้อง (สภษ.6.19)
โดยสาธุคุณ ดร.วัลย์ เพชรสงคราม
คริสตจักรร่มเกล้า

รักษาใจรักษาสุขภาพ

1.  จงรักษาใจของเจ้าด้วยความระวังระไวรอบด้าน เพราะชีวิตเริ่มต้นออกมาจากใจ (สภษ.4.23)
2.  ใจที่ยินดีกระทำให้ใบหน้ารื่นเริง แต่โดยความเสียใจดวงจิตก็สลายลง (สภษ.15.13)
3.  ทุกๆ วันของคนที่ทุกข์ใจก็ร้าย แต่ใจที่ร่าเริงมีการเลี้ยงต่อเนื่องกัน (สภษ.15.15)
4.  สว่างของตาทำให้ใจเปรมปรีดิ์ และข่าวดีกระทำให้กระดูกสดชื่น (สภษ.15.30)
5.  ใจที่สงบให้ชีวิตแก่เนื้อหนัง แต่กิเลสกระทำให้กระดูกผุ (สภษ.14.30)
6.  ถ้อยคำแช่มชื่นเหมือนรวงผึ้งเป็นความหวานแก่วิญญาณจิต และเป็นอนามัยแก่ร่างกาย (สภษ.16.24)
7.  ใจร่าเริงเป็นยาอย่างดี แต่จิตใจที่หมดมานะทำให้กระดูกแห้ง (สภษ.17.22)
โดยสาธุคุณ ดร.วัลย์ เพชรสงคราม
คริสตจักรร่มเกล้า

วินัย

วินัยเป็นชีวิต (สภษ.4.13)
จงยึดวินัยไว้และอย่าปล่อยไป จงระแวดระวังเธอไว้ เพราะเป็นชีวิตของเจ้า

โทษของการไม่มีวินัย (สภษ.5.23)
เขาตายเพราะขาดวินัยในชีวิต และเพราะความโง่อย่างยิ่งของเขา เขาจึงหลงเจิ่นไป

วินัยเป็นทางแห่งชีวิต (สภษ.6.23)
คำตักเตือนของวินัยเป็นทางแห่งชีวิต

รักวินัย (สภษ.12.1)
ผู้ใดที่รักวินัยก็รักความรู้ แต่บุคคลที่เกลียดการตักเตือนก็เป็นคนโฉด

ควรซื้อวินัย (สภษ.22.23)
จงซื้อความจริงและอย่าขายไปเสีย จงซื้อปัญญา วินัย และความรอบรู้

นักกีฬา (1 คร.9.23-27)
ฝ่ายนักกีฬาเคร่งครัดในระเบียบ ส่วนข้าพเจ้าวิ่งแข่งโดยมีเป้าหมาย ทุบตีร่างกายให้แข็งอยู่จนมือ เพราะเกรงว่าเมื่อข้าพเจ้าได้ประกาศข่าวประเสริฐแก่คนอื่นแล้ว ตัวข้าพเจ้าเองจะเป็นคนที่ใช้การไม่ได้
นักกีฬาไม่สวมมงกุฏ ถ้าไม่ได้แข่งขันตามกติกา (2 ทธ.2.5)

ทหารของพระคริสต์
อยู่ใต้วินัยทหาร อยู่ใต้ผู้บังคับบัญชา (มธ.8.9) อดทนอย่างทหารที่ดี เข้าประจำการไม่หลบไม่ยุ่งกับงานของพลเรือน มุ่งที่จะทำให้ผุ้บังคับบัญชาพอใจ (2 ทธ.2-4)

โดยสาธุคุณดร.วัลย์ เพชรสงคราม
คริสตจักรร่มเกล้า

ธรรมชาติของลิ้น (ยากอบ 3.2-12)

1. ลิ้นเป็นอวัยวะเล็กๆ และอวดอ้างเรื่องใหญ่ๆ
2. ลิ้นนั้นก็เป็นไฟ
3. ลิ้นเป็นโลกที่ไร้ธรรมในบรรดาอวัยวะของเรา
4. ลิ้นเป็นเหตุให้ทั้งกายเป็นมลทิน
5. ลิ้นทำให้วัฏจักรแห่งชีวิตเผาไหม้
6. ลิ้นติดไฟโดยนรก
7. ลิ้นนั้นไม่มีมนุษย์คนใดสามารถทำให้เชื่องได้
8. ลิ้นเป็นสิ่งที่ชั่วที่ไม่อยู่สุข
9. ลิ้นเต็มไปด้วยพิษร้ายถึงตาย
10. ใช้ลิ้นสรรเสริญพระเจ้า
11. ใช้ลิ้นแช่งด่ามนุษย์ ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงสร้างไว้ตามพระฉายาของพระองค์
12. ลำคอของเขาคือหลุมศพที่เปิดอยู่ (โรม 3.13)
13. เขาใช้ลิ้นของเขาในการล่อลวง (โรม 3.13)
14. พิษงูร้ายอยู่ใต้ริมฝีปากของเขา (โรม 3.13)
15. ปากของเขาเต็มไปด้วยคำแช่งด่าและคำเผ็ดร้อน (โรม 3.14)
16. เป็นคนปากร้าย (1 คร.5.11)
17. เป็นคนพูดปดเสมอ (1 ทธ.1.12)
18. ใช้ปากพลิกคว่ำทั้งครัวเรือนให้เสียไป (1 ทธ.1.11)
19. ปากบอน พูดสิ่งซึ่งไม่ควรจะพูด (1 ทธ.5.13)
20. คำพูดลามกออกไปเหมือนมะเร็ง (2 ทธ.2.17)

   วินัยที่สำคัญและมีผลในการสร้างเสริมและทำลายคริสตจักรเป็นอย่างมาก คือการบังคับลิ้นหรือการพูดจา มนุษย์ส่วนมากใช้ลิ้นหรือคำพูดในทางลบหรือทำลาย พูดไม่ดีเรื่องคนอื่น คริสตจักรควรสร้างวินัยให้สมาชิกมีท่าทีต่อกันในทางสร้างสรรค์ เสริมสร้างกันในทางบวก เช่น พูดตามพระวจนะ พูดภาษาฝ่ายวิญญาณ หนุนใจ เล้าโลมใจ ให้กำลังใจ มุ่งหน้าทำให้คนอื่นเจริญเติบโตขึ้น รักพระเจ้ามากขึ้น รับใช้มากขึ้น ได้รับพระพรมากขึ้น เป็นต้น

   โดยสาธุคุณ ดร.วัลย์ เพชรสงคราม

   คริสตจักรร่มเกล้า

   
   

อะไรดี อะไรดีกว่า อะไรดีที่สุด

1.   สุดยอดของความมั่งมีคือ มั่งมีทรัพย์สมบัติในสวรรค์
      (มธ.6.19-20)  อย่าส่ำทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตัวในโลกที่อาจเป็นสนิมและที่แมลงกินเสียได้ และที่ขโมยอาจขุดช่องล้วงลักเอาไปได้ แต่จงส่ำสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์ที่ไม่มีแมลงจะกิน และไม่มีสนิมจะกัด และไม่มีขโมยขุดช่องล้วงลักเอาไปได้ เพราะว่าทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ไหนใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย
2.   ปรนนิบัติพระเจ้าดีที่สุด
      (มธ.6.24)  ไม่มีผู้ใดเป็นข้าสองเจ้า บ่าวสองนายได้ เพราะว่าจะชังนายข้างหนึ่งและรักนายอีกข้างหนึ่ง หรือจะนับถือนายฝ่ายหนึ่งและจะดูหมิ่นนายอีกฝ่ายหนึ่ง ท่านจะปฏิบัติพระเจ้าและจะปฏิบัติเงินทองพร้อมกันไม่ได้
3.   การได้ชีวิตนิรันดร์สำคัญที่สุด
      (ยน.6.63)  จิตวิญญาณเป็นที่ให้ชีวิต ส่วนเนื้อหนังไม่สู้มีประโยชน์อันใด
4.   แผ่นดินสวรรค์สำคัญกว่าความมั่งมี
      (มธ.19.23-24)  พระเยซูตรัสต่อไปว่า คนมั่งมีจะเข้าแผ่นดินสวรรค์ก็ยาก ตัวอูฐจะรอดรูเข็มก็ง่ายกว่า คนมั่งมีจะเข้าแผ่นดินของพระเจ้า และคนที่วางใจในทรัพย์สมบัติจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าก็ยากจริงหนา (มก.10.24)
5.   สันโดษดีกว่าความโลภเงินทอง
      (1 ทธ.6.8) แต่ถ้าเรามีอาหารและเสื้อผ้าก็ให้เราพอใจด้วยของเหล่านั้นเถิด ส่วนที่อยากร่ำรวยก็ตกอยู่ในข่ายของความเย้ายวนและติดบ่วงแร้ว และความปรารถนานานาที่ไร้ความคิดและเป็นภัยแก่ตัว ซึ่งทำให้คนเราต้องถึงความพินาศเสื่อมสูญไป ด้วยว่าการรักเงินทองนั้นเป็นมูลรากแห่งความชั่วทั้งมวล และเพราะความโลภนี่แหละจึงทำให้บางคนห่างไกลความเชื่อและตรอมตรมด้วยความทุกข์
6.   สิ่งที่อยู่เบื้องบนมาก่อนสิ่งที่อยู่บนแผ่นดินโลก
      (คส.3.1-2) จงแสวงหาสิ่งที่อยู่เบื้องบนในที่ซึ่งพระคริสต์ทรงสถิตย์อยู่คือประทับขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า จงเอาใจใส่สิ่งที่อยู่เบื้องบนไม่ใช่ซึ่งอยู่ที่แผ่นดินโลก เพราะว่าโลกกับสิ่งที่ยั่วยวนของโลกกำลังล่วงไป แต่ผู้ที่ประพฤติตามพระทัยของพระเจ้าจะดำรงอยู่เป็นนิตย์ (1 ยน.2.17)

โดยสาธุคุณ ดร.วัลย์ เพชรสงคราม
คริสตจักรร่มเกล้า

การบริหารงานให้สำเร็จ

1.   การตั้งเป้าหมาย พระเจ้าทรงกระทำให้ทุกสิ่งมีเป้าหมายของมัน (สภษ.16.4)
2.   การวางแผนโดยพระเจ้าทรงนำ
      แผนงานของความคิดเป็นของมนุษย์ แต่คำตอบของลิ้นมาจากพระเจ้า (สภษ.16.1)
      ใจของมนุษย์กะแผนงาน ทางของเขา แต่พระเจ้าทรงนำย่างเท้าของเขา (สภษ.16.9)
      ในใจของมนุษย์มีแผนงานเป็นอันมาก แต่พระประสงค์ของพระเจ้านั่นแหละจะดำรงอยู่ได้ (สภษ.19.21)
3.   มอบแผนงานนั้นไว้กับพระเจ้า
      จงมอบงานของเจ้าไว้กับพระเจ้า และแผนงานของเจ้าจะได้รับการสถาปนาไว้ (สภษ.16.3)
      จงวางใจในพระเจ้าด้วยสุดใจของเจ้า และอย่าพึ่งพาความรอบรู้ของตน จงยอมรับรู้พระองค์ในทุก ทางของเจ้า และพระองค์จะทรงกระทำให้วิถีของเจ้าราบรื่น (สภษ.3.5-6)
4.   คนที่มีคุณภาพ
      แต่ด้วยคนที่มีความเข้าใจและความรู้ เสถียรภาพของแผ่นดินนั้นจะยั่งยืน (สภษ.28.2)
5.   สติปัญญา
      เรือนนั้นเขาสร้างกันด้วยปัญญา และสถาปนามันไว้ด้วยความเข้าใจ โดยความรู้บรรดาห้องก็เต็มไปด้วยความมั่นคง ล้วนประเสริฐและเพลิดเพลินทั้งสั้น (สภษ.24.3-4/ 8.14-16)
6.   ความขยันขันแข็ง
      มือที่ขยันกระทำให้มั่งคั่ง (สภษ.10.4)
      มือของคนที่ขยันขันแข็งจะครอบครอง (สภษ.12.24)
      คนที่ขยันขันแข็วจะได้ทรัพย์ศฤงคารประเสริฐ (สภษ.12.27)
      แผนงานของคนขยันขันแข็งนำสู่ความอุดมสมบูรณ์แน่นอน (สภษ.21.5-6)
7.   การบริหาร
      1.  ที่ไหนไม่มีการนำ ประชาชนก็ล้มลง แต่ในที่ซึ่งมีที่ปรึกษามากย่อมมีความปลอดภัย (สภษ.11.14)
      2.  ปราศจากการปรึกษาหารือ แผนงานก็ล้มเหลว แต่มีผู้แนะนำมากๆ แผนงานนั้นก็สำเร็จ (สภษ.15.22)
      3.  แผนงานดำรงอยู่ได้ด้วยการปรึกษาหารือ จงทำสงครามด้วยมีการนำที่ฉลาด (สภษ.20.18)
      4.  เพราะว่าโดยการนำที่ฉลาดเจ้าก็เจ้าสงครามได้ และด้วยมีที่ปรึกษามากๆ ก็มีชัยชนะ (สภษ.24.6)
      5.  ในใจของมนุษย์มีแผนงานเป็นอันมาก แต่พระประสงค์ของพระเจ้านั่นแหละจะดำรงอยู่ได้ (สภษ.19.21)
โดยสาธุคุณ ดร.วัลย์ เพชรสงคราม
คริสตจักรร่มเกล้า



      
   

ผู้ที่เป็นพระพรที่ทุกคนควรรักใคร่และสัมพันธ์สนิท

1.   วิสุทธิชนในแผ่นดินผู้ประเสริฐ เป็นพวกที่ข้าพเจ้าปิติยินดีด้วย  (สดุดี 16,3)
2.   มิตรภาพของพระเจ้ามีแก่คนที่ยำเกรงพระเจ้า  (สดุดี 25.14-15)
3.   จงหมายคนที่ไร้ตำหนิไว้ และมองดูคนเที่ยงธรรมเพราะสันติชนจะมีอนาคต  (สดุดี 37.37)
4.   การระลึกถึงคนชอบธรรมเป็นพระพร  (สภษ.10.7)
5.   บุคคลที่เดินกับนักปราชญ์ก็กลายเป็นคนฉลาด  (สภษ.13.20)
6.   เหล็กลับเหล็กได้คนหนึ่งก็ลับเพื่อนของตนได้  (สภษ.27.17)
7.   จงอธิษฐานขอสันติภาพให้แก่เยรูซาเล็ม (คริสตจักร) ขอให้ผู้ที่รักเธอจงเจริญ  (สดุดี 122.6/
      ปฐก.12.3)
โดยสาธุคุณวัลย์  เพชรสงคราม
คริสตจักรร่มเกล้า

13หลัก,13 ยึด,8ตาม

หลัก 13 ประการ
1.   คำสอนมีหลักในข่าวประเสริฐ  (1 ทธ.1.10-11)
2.   หลักธรรมอันดี  (1 ทธ.4.8)
3.   พระวจนะอันมีหลัก (1 ทธ.6.3)
4.   คำสอนมีหลัก  (2 ทธ.1.13)
5.   หลักความจริง  (2 ทธ.3.7)
6.   หลักคำสอนแท้  (ทต.1.13)
7.   ความเชื่อมีหลัก (ทต.1.9)
8.   คำพูดมีหลัก  (ทต.2.8)
9.   อัครฑูตเป็นหลัก  (กท.2.9)
10. หลักคำสอนใหม่  (กจ.17.19)
11. คริสตจักรเป็นหลัก  (1 ทธ.3.15)
12. พระเยซูเป็นราก  (1 คร.3.9-10)
      พระเยซูเป็นศิลามุมเอก  (อฟ.2.20)
      พระเยซูเป็นศีรษะ  (อฟ.1.22/4.15/5.23)
13. ความรักเป็นฐานราก  (อฟ.3.17)

ยึด 13 ประการ
1.   ยึดในความเชื่อ  (รม.14.22)
2.   ยึดมั่นในพระวจะแห่งชีวิต  (ฟป.2.16)
3.   ยึดมั่นในพระองค์ผู้เป็นศีรษะ  (คส.2.19)
4.   ยึดมั่นในข้อล้ำลึกแห่งความเชื่อ  (1 ทธ.3.9)      
5.   ยึดมั่นในนามของเราไว้  (วว.2.13)
6.   ยึดมั่นในความหวัง  (ฮบ.6.18,19)
7.   ยึดมั่นในชีวิตนิรันดร์  6.12)

ตาม 8 ประการ
1.   ตามพระเจ้า
2.   ตามพระวิญญาณ
3.   ตามพระเยซู
4.   ตามพระคำ
5.   ตามคริสตจักร
6.   ตามอัครฑูต
7.   ตามคนฝ่ายวิญญาณ
8.   ตามน้ำพระทัย
โดยสาธุคุณ ดร.วัลย์ เพชรสงคราม

ทำไมต้องเชื่อฤทธิ์เดชของพระเจ้า

1.   เพราะพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด  (วว.1:8, 4:8)

2.   เพราะพระเยซูคริสต์ทรงเป็นฤทธานุภาพและพระปัญญาของพระเจ้า (1 คร.1:24)

3.   เพราะผู้เชื่อได้รับฤทธิ์เดชเมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จลงมาเหนือเขา (กจ.1:8, 2:17,18)

4.   เพราะเชื่อพระวจนะของพระเจ้าที่ทรงฤทธานุภาพ  (ฮบ.4:12)

5.   เพราะเชื่อข่าวประเสริฐที่เป็นฤทธิ์เดชของพระเจ้า  (รม.1:16)

6.   เพราะพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ทรงทำให้สำเร็จตามที่พระองค์ตรัสสัญญาไว้  (รม.4:21)

7.   เพราะเชื่อเรื่องแผ่นดินของพระเจ้าที่เป็นฤทธิ์เดช  (1 คร.4:20)

8.   เพราะเชื่อเรื่องไม้กางเขนที่เป็นฤทธิ์เดชของพระเจ้า  (1 คร.1:18)

9.   เพราะเรามีชีวิตอยู่กับพระองค์โดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า (2 คร.13:4)

10. เพราะความเชื่อของคริสเตียนไม่ได้อาศัยสติปัญญาของมนุษย์แต่อาศัยฤทธิ์เดชของพระเจ้า 

      (1 คร.2:5)

11. เพราะพระเจ้าทรงใช้ฤทธิ์เดชอันใหญ่ยิ่งชุบพระเยซูให้เป็นขึ้นจากความตาย (อฟ.1:19,20)

12. เพราะต้องใช้ศาสตราวุธที่มีฤทธิ์เดชต่อสู้กับมารร้าย (2 คร.10:4)

13. เพราะพระเยซูคริสต์ประกอบด้วยฤทธิ์เดชในการงานและในถ้อยคำจำเพาะพระเจ้า (ลก.24:19)
14. เพราะพระเยซูคริสต์ประกอบด้วยฤทธิ์เดชในการงานและในถ้อยคำจำเพาะพระเจ้า (ลก.24:19)

16. เพราะเชื่อว่าเขาจะได้ดีแน่นอนเพราะพระเจ้าทรงฤทธิ์ช่วยให้เขาให้ได้ดี  (รม.14:4)

17. เพราะเชื่อว่าพระเจ้าทรงฤทธิ์เดชทรงให้ผู้เชื่อได้รับการต่อกิ่งใหม่ได้อีก (รม.11:23)

18. เพราะเชื่อว่าสภาพที่ไม่ปรากฎของพระเจ้าคือฤทธานุภาพอันถาวร (รม.1:20)

19. . เพราะผู้เป็นคริสเตียนที่ดีแต่เปลือกนอก คือคนที่ปฏิเสธฤทธิ์เดช (2 ทธ.3:5)

20. เพราะเป็นฤทธิ์เดชแห่งยุคที่จะมาถึง (ฮบ.6:5)

21. เพราะพระเยซูคริสต์ทรงเป็นปุโรหิตที่พระเจ้าทรงเจิมด้วยฤทธิ์เดชแห่งชีวิตนิรันดร (ฮบ.7:16)

22. เพราะเชื่อว่าพระเจ้าทรงฤทธิ์สามารถชุบคนที่ตายแล้วให้เป็นขึ้นมาอีกได้ (ฮบ.11:19)

โดยสาธุคุณ ดร.วัลย์ เพชรสงคราม

คริสตจักรร่มเกล้า

เชื่อตัวเองไม่ได้

เชื่อว่าและรู้ว่า       สิ่งต่างๆที่มองไม่เห็นก็มีจริง  
                              เพราะมีสิ่งที่มองไม่เห็นเยอะแยะไปหมด

เชื่อว่าและรู้ว่า       สิ่งที่หูไม่ได้ยินก็มีจริง 
                    เพราะมีสิ่งที่หูไม่ได้ยินเยอะแยะไปหมด

เชื่อว่าและรู้ว่า       สิ่งที่ใช้จมูกดมกลิ่นไม่ได้ก็มีจริง 
                    เพราะมีสิ่งที่ใช้จมูกดมกลิ่นไม่ได้เยอะแยะไปหมด

เชื่อว่าและรู้ว่า        สิ่งที่ใช้ลิ้นชิมรสไม่ได้ก็มีจริง
                    เพราะมีสิ่งที่ใช้ลิ้นชิมรสไม่ได้เยอะแยะไปหมด

เชื่อว่าและรู้ว่า        ลมหรืออากาศที่กายสัมผัสไม่ได้ก็มีจริง
                    พราะมีสิ่งที่ใช้กายจับต้องไม่ได้เยอะแยะไปหมด

เชื่อว่าและรู้ว่า        เรื่องที่ยังคิดไม่ได้ก็มีจริง
                    เพราะมีเรื่องที่ยังคิดไม่ได้เยอะแยะไปหมด

เชื่อว่าและรู้ว่า        เรื่องที่ยังรู้ไม่ได้ก็มีจริง
                    เพราะมีเรื่องที่ยังรู้ไม่ได้เยอะแยะไปหมด

เชื่อว่าและรู้ว่า        เรื่องที่ยังพิสูจน์อะไรไม่ได้เลยก็มีจริง
                    เพราะมีเรื่องที่ยังพิสูจน์ไม่ได้เยอะแยะไปหมด

เชื่อว่าและรู้ว่า        เรื่องจริงที่สุดวิสัยจะรู้ได้ก็มีจริง
                    เพราะมีเรื่องที่สุดวิสัยจะรู้ได้เยอะแยะไปหมด

เชื่อว่าและรู้ว่า        วิญญาณมีจริงเพราะตัวเองก็มีวิญญาณ และวิญญาณอื่นๆก็มีเยอะแยะไปหมด
                    และทำไมจึงไม่เชื่อพระเจ้าที่ทรงเป็นวิญญาณ

เชื่อว่าและรู้ว่า        ฤทธิ์เดชมีจริง
                    เพราะมีเรื่องอภินิหาร และการอัศจรรย์เยอะแยะไปหมด

เชื่อว่าและรู้ว่า        สิ่งที่สุดวิสัยปัญญามนุษย์ก็มีจริง
                    เพราะมีสิ่งที่สุดวิสียที่จะรู้มากกว่าสิ่งที่มีวิสัยที่รู้ได้เยอะแยะไปหมด

โดยสาธุคุณ ดร.วัลย์ เพชรสงคราม
คริสตจักรร่มเกล้า

สาเหตุของการอยู่ดีกินดีและมั่งมี

ความขยันขันแข็ง
สภษ.12.24     มือของคนที่ขยันขันแข็งจะครอบครอง
สภษ.12.27    แต่คนขยันขันแข็งจะได้ทรัพย์ศฤงคารประเสริฐ
สภษ.13.4      วิญญาณของคนขยันจะอ้วนพี
สภษ.21.5     แผนงานของคนขยันขันแข็งนำไปสู่ความอุดมแน่นอน
สภษ.31.10-31  ภรรยาดีประเสริฐกว่าทับทิม เธอขยัน ฉลาด มีความสามารถสูงและยำเกรงพระเจ้า

การเก็บเล็กผสมน้อยหรือประหยัด

สภษ.13.11     บุคคลทีส่ำสมทีละเล็กทีละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น

รับมรดก

สภษ.13.22     คนดีๆ ก็ละมรดาไว้แก่หลานๆ
สภษ.19.14     เรือนและทรัพย์ศฤงคารเป็นมรดกจากบิดา
สภษ.20.7       คนชอบธรรมผู้ดำเนินในความสัตย์ซื่อของตน บุตรชายของเขาที่เกิดตามเขามาย่อมได้รับพร

บำเหน็จจากพระเจ้า
สภษ.22.4       บำเหน็จของความถ่อมใจและความยำเกรงพระเจ้า คือความมั่งคั่ง เกียรติและชีวิต

ปากเป็นเอก

สภษ.18.20    ท้องจะอิ่มก็เพราะผลแห่งปากของเขา เขาหนำใจเพราะผลอันเกิดจากริมฝีปากของตน
สภษ.10.15    มีทองคำและทับทิมมีค่าเป็นอันมาก แต่ริมฝีปากที่มีความรู้ก็เป็นเพชรนิลจินดาประเสริฐ

จากหนังสือ พระเจ้ามั่งคั่ง เรามั่งมี
โดยสาธุคุณ ดร.วัลย์ เพชรสงคราม

นมัสการในวิญญาณ..ในความจริง

ข้าแต่พระเจ้า พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพระองค์
ข้าพระองค์จะยอพระเกียรติพระองค์  ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระนามของพระองค์
อิสยาห์ 25.1